วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อัลดีไฮด์และคีโตน

1.  อัลดีไฮด์และคีโตนเป็นสารประกอบที่มีหมู่ฟังชันคาร์บอนิล(Carbonyl group)  -C=O อัลดีไฮด์มีสูตรทั่วไปคือ R-CHO คีโตน์มีสูตรทั่วไปคือ R-CO-R
2. 
การเรียกชื่ออัลดีไฮด์ตามระบบ IUPAC จะลงท้ายด้วย -al  เช่น   หรือ CH3CHO เรียกว่า ethanal และคีโตนลงท้ายด้วย -one เช่น หรือ CH3COCH3 เรียกว่า propanone
3. 
หมู่ฟังชันคาร์บอนิล -C=O เป็นพลานาร์ (planar) และไฮบริไดเซชันของคาร์บอนเป็นชนิด sp2 นอกจากนั้นสามารถเกิดขั้ว(polarization) ได้
   
ดังนั้นปฏิกิริยาหลักของอัลดีไฮด์และคีโตนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จึงเป็น ปฏิกิริยาการเพิ่มนิวคลิโอไฟล์ ( nucleophilic addition )
4. 
สมบัติทางเคมีของแอลดีไฮด์และคีโตนมี 2 แบบ คือ
   4.1.
ปฏิกิริยาการเพิ่มนิวคลิโอไฟล์ของคีโตนจะเกิดช้ากว่าของอัลดีไฮด์ ทั้งนี้เนื่องจากผลของ ซเทอริก(steric effect) และผลของ อิเลคทรอนิก (electronic effect) ที่อยู่ภายในโมเลกุล

   4.2.
ปฏิกิริยาแทนที่ alpha-H ของหมู่คาร์บอนิล ด้วยหมู่แฮโลเจน

  4.1.
ปฏิกิริยาการเพิ่มนิวคลิโอไฟล์ของคีโตนจะเกิดช้ากว่าของอัลดีไฮด์ ทั้งนี้เนื่องจากผลของ

     4.1.1 
ปฏิกิริยาการเพิ่มน้ำของอัลดีไฮด์หรือคีโตนจะให้ 1,1-diol สำหรับปฏิกิริยานี้จะเป็นปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ (reversible reaction) เช่น

  R-CHO + H2O  
ให้  RCH(OH)2 เช่น CCl3CHO + H2O    CCl3CH(OH)2
  R-CO-R + H2O  
ให้  R2C(OH)2 เช่น
CCl3COCCl3
  + H2O  (CCl3)2C(OH)2

     4.1.2  
ปฏิกิริยาการเพิ่มอัลกอฮอล์ของอัลดีไฮด์หรือคีโตน จะให้เฮมิอะซิทัล (hemiacetal) หรือเฮมิคีทัล(hemiketal)  สำหรับปฏิกิริยานี้จะเป็นปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ (reversible reaction) และถ้ามีอัลกอฮอล์มากเกินพอ(excess) จะให้อะซิทัล (acetal) หรือ คีทัล (ketal)  เช่น

  R-CHO + 2ROH  
ให้  RCH(OR)2 (อะซิทัล) เช่น CH3CHO + 2 CH3OH     CH3CH(OCH3)2
  R-CO-R + 2ROH  
ให้  R2C(OR)2 (คีทัล) เช่น CH3COCH3 + 2 CH3OH     (CH3)2C(OCH3)2

     4.1.3 
ปฏิกิริยาการเพิ่ม HCN ของอัลดีไฮด์หรือคีโตนจะให้ไซยาโนไฮดริน (cyanohydrin) เช่น
  R-CO-R + HCN  
ให้  R2C(OH)CN  (cyanohydrin) เช่น
CH3COCH3 + HCN    (CH3)2C(OH)CN   CH3CHO + HCN    CH3CH(OH)CN

      4.1.4 
ปฏิกิริยาการเพิ่มแอมโมเนีย หรือไพรมารีเอมีน ของอัลดีไฮด์หรือคีโตน เช่น
  R-CHO + RNH2  
ให้  RCH=NR เช่น CH3CHO + CH3CH2NH2    CH3CH=NCH2CH3
  R-CO-R + RNH2  
ให้  R2C=NR เช่น CH3COCH3 + CH3CH2NH2    (CH3)2C=NCH2CH3

     4.1.5 
ปฏิกิริยาการเพิ่มกรีญาร์รีเอเจนต์ (Grignard reagent)  ของอัลดีไฮด์จะให้เซเคิลดารีอัลกอฮอล์หรือคีโตนจะให้เทอเชียรีอัลกอฮอล์ เช่น
  R-CHO + RMgX  
และนำไปทำปฏิกิริยาต่อด้วยน้ำให้  R2CH(OH) (เซเคิลดารีอัลกอฮอล์) เช่น
CH3CHO + CH3CH2MgBr (then H2O)    CH3CH(OH)CH2CH3
   R-CO-R + RMgX  
และนำไปทำปฏิกิริยาต่อด้วยน้ำให้  R3C(OH) (เทอเชียรีอัลกอฮอล์) เช่น CH3COCH3 + CH3CH2MgBr (then H2O)    (CH3)2C(OH)CH2CH3

     4.1.6 
ปฏิกิริยารีดักชันของอัลดีไฮด์จะให้ไพรมารีอัลกอฮอล์หรือคีโตนจะให้เซเคิลดารีอัลกอฮอล์ เช่น
  R-CHO + LiAlH4 or NaBH4 or H2/Pt  
ให้  RCH2OH (ไพรมารีอัลกอฮอล์) เช่น
CH3CHO + LiAlH4 or NaBH4 or H2
/ Pt     CH3CH2OH
  R-CO-R + LiAlH4 or NaBH4 or H2/Pt  
ให้  R2CHOH (เซเคิลดารีอัลกอฮอล์) เช่น
CH3COCH3 + LiAlH4 or NaBH4 or H2
/ Pt     CH3CH(OH)CH3

     4.1.7 
ปฏิกิริยาออกซิเดชันของอัลดีไฮด์หรือคีโตน เช่น การใช้ทอลเลนส์รีเอเจนต์ทดสอบความแตกต่างของอัลดีไฮด์และคีโตนถ้าเป็นอัลดีไฮด์จะถูกออกซิไดซ์ให้กรดคาร์บอกซิลิกและมีตะกอนเงินเกิดขึ้น และถ้าเป็นคีโตนจะไม่เกิดปฏิกิริยา

  R-CHO + Ag(NH3)+,OH-  (
ทอลเลนส์รีเอเจนต์)   RCOO- (carboxylic  acid salt) + Ag
  R-CO-R + Ag(NH3)+,OH-  (
ทอลเลนส์รีเอเจนต์) no reaction
ปฏิกิริยาออกซิเดชันของอัลดีไฮด์ด้วย (Benedict’s reagent) Cu2+/citric acid/NaOH จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันเฉพาะอะลิเฟติกอัลดีไฮด์
 R-CHO + Cu2+/citric acid/NaOH (Benedict’s reagent) RCOO- (carboxylic  acid salt) + Cu2O
CH3CHO + Cu2+/citric acid/NaOH (Benedict’s reagent)   CH3COO-Cu2O
 
 + Cu2+/citric acid/NaOH (Benedict’s reagent) no reaction
  4.2.ปฏิกิริยาแทนที่ alpha-H ของหมู่คาร์บอนิล ด้วยหมู่แฮโลเจน

     4.2.1 
ปฏิกิริยาเฮโลฟอร์ม(Haloform)เป็นปฏิกิริยาทดสอบของอัลดีไฮด์หรือคีโตนว่ามีหมู่
RCO-CH3 
ถ้ามีจะให้ตะกอนสีเหลืองอ่อนของไอโอโดฟอร์ม เช่น

  R-CO-CH3 + NaOH / I2(excess)     R-COO-Na+ + CHI3 (Iodoform)
CH3COCH3 + NaOH / I2(excess) CH3COO-Na+ + CHI3 (Iodoform)
CH3CHO +  NaOH / I2(excess) HCOO-Na+ + CHI3 (Iodoform)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น